PTT Group Sharings
23 สิงหาคม 2564

ปรับพื้นที่ทำงานอย่างไรให้ส่งผลต่อ Productivity

ผู้คนบางส่วนอาจไม่ทราบว่าพื้นหรือบริเวณที่ทำงานนั้นส่งผลต่อประสิทธิภาพและการทำงานของเราอย่างไร พื้นที่และบริเวณที่ทำงานนั้นมีผลต่อการทำงานของเราเป็นอย่างมาก โดยที่เราควรมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบลักษณะของพื้นที่ๆเราทำงานให้เหมาะสมกับลักษณะงานหรือเอื้ออำนวยต่อการทำงานของเราเพื่อทำให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น และหากการทำงานของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็จะส่งผลโดยตรงต่องานที่เราได้ผลิตออกมา โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เราอาจจะต้องมีการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) มากขึ้น การปรับพื้นที่ทำงานส่วนหนึ่งของบ้านให้กลายเป็นมุมทำงานที่มีประสิทธิภาพและส่งผลดีต่อการทำงานของเราจึงนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำงานของเราให้ส่งผลดีต่อการทำงาน

การปรับพื้นที่หรือบริเวณที่ทำงานนั้นอาจทำได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของลักษณะงานและบริเวณพื้นที่ๆเราจะสามารถปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งเรามีคำแนะนำสำหรับท่านที่กำลังสนใจต้องการปรับพื้นที่ทำงาน ดังต่อไปนี้

สถานที่ : เลือกมุมหรือสถานที่ทำงานบริเวณที่ไม่มีคนรบกวน บริเวณที่ไม่มีผู้คนพลุกพล่านระหว่างที่เรากำลังทำงาน หรือบริเวณที่ไม่มีเสียงดังรบกวน ซึ่งจะทำให้เรามีสมาธิในการทำงานมากขึ้น และสามารถจดจ่อกับงานได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อผลลัพท์ของงานที่เราทำ

โทนสี : เลือกใช้โทนสีที่เรียบง่ายหรือสีที่ดูสบายตา เช่น สีขาว ดำ สีที่มีโทนเย็นหรือหม่นเล็กน้อย เพื่อให้บริเวณที่ทำงานของเราดูผ่อนคลาย สบายตา น่านั่ง ดูเป็นระเบียบและเพิ่มสมาธิในการทำงาน รวมถึงทำให้บริเวณทำงานของเราดูมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น

เฟอร์นิเจอร์ : เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับการทำงานของเรา เช่น โต๊ะทำงาน ลิ้นชักหรือตู้เก็บของสำหรับการจัดเก็บเอกสารที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดความรวดเร็วเมื่อเราต้องหยิบใช้เอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับงาน ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกในการใช้งานรวมถึงความเป็นระเบียบของการเก็บเอกสารต่างๆ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความเป็นระเบียบของโต๊ะทำงานของเรา ทำให้บริเวณโต๊ะทำงานของเราน่านั่ง สะอาดและสบายตามากขึ้น

สไตล์ : เพิ่มสไตล์และความเป็นตัวของตัวเองลงไปในมุมทำงานเพื่อทำให้ไม่น่าเบื่อ มีของตกแต่งเล็กๆน้อยๆในบริเวณที่ทำงานของเรา เช่น กรอบรูป โคมไฟ ภาพวาด ภาพถ่าย หรือของตกแต่งชิ้นเล็กๆที่เราชอบ ซึ่งนอกจากจะสร้างสีสันให้พื้นที่ทำงานของเราแล้ว ยังช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์หรือแรงบันดาลใจในการทำงานอีกด้วย

วิว : จัดพื้นที่ทำงานในบริเวณที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้เพื่อเพิ่มความผ่อนคลายขณะทำงาน และทำให้การทำงานเป็นระยะเวลานานของเราไม่เครียดจนเกินไป แนะนำให้เลือกวิวที่เป็นต้นไม้ สวนหรือวิวธรรมชาติจะทำให้เราผ่อนคลายมากขึ้น

แสง : ควรเลือกบริเวณที่มีแสงสว่างที่เหมาะสม ไม่มืดหรือสว่างจนเกินไปเพื่อถนอมสายตาของเรา หรือหากเลือกบริเวณที่มีแสงธรรมชาติ เช่น ตั้งโต๊ะทำงานใกล้บริเวณหน้าต่างก็จะช่วยทำให้ห้องดูโปร่งและสบายขึ้น หากแต่ต้องระวังทิศทางและปริมาณของแสงด้วยเช่นกันว่าจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของเราหรือไม่ อาจใช้ผ้าม่านบังแสงหรือการติดฟิล์มกรองแสงเพื่อลดปริมาณแสงลงให้เหมาะสมกับการทำงาน หรือหากมืดเกินไปก็ควรเพิ่มแสงสว่างโดยการเพิ่มหลอดไฟหรือนำโคมไฟมาวางเพิ่มแทน

ต้นไม้ : หาต้นไม้มาวางในพื้นที่ทำงานของเรา การเพิ่มสีเขียวในพื้นที่ทำงานของเราจะทำให้เราผ่อนคลายมากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มความสบายตาหลังจากที่ทำงานมานาน พร้อมทั้งทำให้บริเวณที่ทำงานดูน่านั่ง โดยควรเลือกต้นไม้ที่ดูแลง่าย หรือ เลือกเป็นต้นไม้ฟอกอากาศก็ได้

สุขภาพ : นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการปรับพื้นที่ทำงานที่จะส่งผลดีต่อการทำงานของเรา โดยการปรับพื้นที่ทำงานที่ดีนั้นนอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตแล้ว ยังต้องส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย ดังนั้นเราจึงควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ต่างๆที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและการทำงานของเรา เช่น เลือกโต๊ะที่เหมาะสมกับการทำงานของเรา ไม่สูงหรือเตี้ยจนเกินไป มีตำแหน่งและฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะสมกับการทำงาน หรือเก้าอี้ที่ช่วยรองรับกับสรีระและสภาพร่างกายของเรา ไม่ทำให้เราปวดหลังหรือปวดเมื่อนตามตัวหากนั่งเป็นระยะเวลานาน สามารถปรับตำแหน่งความสูงของเก้าอี้ได้ อาจมีบริเวณที่ตั้งแขนเพื่อช่วยรองรับน้ำหนักและแขนของเรา

ที่มา: https://www.facebook.com/CareShareAndRespect/posts/4078809585564743

หัวข้อที่น่าสนใจ